วันพุธที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2557

ลูกชุบ

ขนมลูกชุบ



ประวัติของลูกชุบ
      ลูกชุบ เป็นขนมประจำถิ่นโปรตุเกส แพร่หลายมาถึงย่านเมดิเตอร์เรเนียนแถบฝรั่งเศส
ตอนใต้ เพราะอยู่ใกล้บ้าน เช่น เมืองนิส เมืองคานส์ก็มีขนมลูกชุบมากมายทั้งเมือง ลูกชุบในภาษาโปรตุเกส เรียกว่า Massapa'es เป็นขนมประจำถิ่นของแคว้นอัลการ์อิ โดยโปรตุเกส ใช้เม็ดแอลมอลด์ เป็นส่วนผสมสำคัญ แต่ในประเทศไทยไม่มี จึงต้องใช้ถั่วเขียวแทน เนื่องจากขนมโปรตุเกสจำเป็นต้องอาศัยประสบการณ์และความรู้ความชำนาญพิเศษ จึงจะได้ขนมหวานที่รสชาติออกมาสีสวยงาม ลูกชุบ เป็นขนมไทยชนิดหนึ่งทำด้วยถั่วเขียวบดกวนปั้นเป็นรูปร่างต่างๆระบายสี แล้วนำไปชุบวุ้นให้สวยงาม สีที่ใช้ทำลูกชุบนั้นนอกจากระบายลงบนถั่วเขียวกวนที่ปั้นแล้ว ยังใส่สีลงในถั่วกวนโดยตรงได้อีก เช่น สีเหลือง สำหรับขนมที่จะปั้นเป็นผลมะปรางใช้ฟักทองนึ่งแล้วยีละเอียดผสมในถั่วกวน สีแสด เช่นผลมะเขือเทศสีดา ใช้มะละกอสุกยีละเอียดผสมในถั่วกวน สีชมพู เช่น ชมพู่แก้มแหม่ม ใช้หัวบีทรูทต้มยีละเอียดกรองแต่น้ำผสมในถั่วกวน สีแดง เช่นผลเชอรี่ ใช้หัวบีทรูทเช่นกัน แต่ใส่ให้มากขึ้น สีเขียว เช่น พุทรา มะยม ชมพู่เขียว ใช้ใบเตยหั่นละเอียดกรองเอาแต่น้ำ สีน้ำตาล เช่น ผลลำไย ละมุด ใช้ผงโกโก้ร่อน ผสมในถั่วกวน
 




อุปกรณ์
        
เครื่องปั่น กระทะทองเหลือง

วัตถุดิบ
        1. ถั่วเขียวซีกเลาะเปลือกนึ่งสุก 150 ก. (แช่น้ำ 1 คืน)
        2. สีผสมอาหารสีแดง 1 ช้อนโต๊ะ
        3. สีผสมอาหารสีเขียว 1 ช้อนโต๊ะ 
        4. สีผสมอาหารสีส้ม 1 
ช้อนโต๊ะ 
        5. น้ำตาลทราย 130 ก.
        6. ผงวุ้น 25 ก.
        7. น้ำเปล่า 1 ลิตร
        8. กะทิ 250 มล.
        9. กลิ่นมะลิ 1/2 ช้อนชา
        10. ใบของต้นแก้ว 1/2 ถ้วย
วิธีการทำ
    1. นำถั่วนิ่มสุก กะทิ น้ำตาลทราย ปั่นรวมกันจนละเอียด จากนั้นนำไปกวนในกระทะทองเหลืองด้วย
ไฟอ่อน จนส่วนผสมเริ่มแห้ง พักไว้ให้เย็น
    2. ปั้นให้เป็นรูปทรงผลไม้ตามชอบ จากนั้นทาสีให้สวยงาม พักไว้ 10 นาทีเพื่อให้สีแห้ง
    3. ผสมผงวุ้น น้ำเปล่า คนให้เข้ากัน พักไว้ 5 นาที ให้ผงวุ้นดูดซึมน้ำให้เต็มที่ เปิดไฟแรงให้น้ำเดือด
 จากนั้นลดไฟลงอ่อนๆ
    4. นำขนมลูกชุบที่ระบายสีแล้วลงชุบในน้ำวุ้นเคลือบให้ทั่วขนม พักไว้ 5 นาที จากนั้นชุบวุ้นใหม่
อีกครั้ง (ชุบ 3 รอบ)
    5. เมื่อขนมลูกชุบเคลือบวุ้นทั่วดีแล้ว ตกแต่งให้สวยงามด้วยใบของต้นแก้ว เป็นอันเสร็จ




    

วันอังคารที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2557

สถานที่่องเที่ยวในจังหวัดศรีสะเกษ

สถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดศรีสะเกษ


วัดสระกำแพงใหญ่
นารายณ์บรรทมสินธุ์นอนตะแคงซ้าย และตัวนาคเป็นแบบบาปวน และที่เท้าของพระนารายณ์ จะมีศักติ 2 องค์ คือ นางลักษมี และนางภูมิ
วัดสระกำแพงใหญ่ ปราสาทแห่งนี้ได้พบทับหลังประมาณ 9 ชิ้น และชิ้นที่สำคัญสันนิฐานว่าเป็นของปรางค์องค์ทิศเหนือ เป็นรูปคชลักษมี ซึ่งไม่ค่อยพบในประเทศไทย การสลักเป็นรูปคชลักษมี หมายถึง ความอุดมสมบูรณ์ คชลักษมีมีลักษณะเป็นรูปช้าง 2 ตัว หันหน้าเข้าหากันและงวงประสานกันเป็นรูปวงกลมภายในรูปพระนางลักษมี สำหรับหลังที่ปรางค์องค์ประธานจะสลักเป็นรูปพระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ และสำหรับทับหลังชิ้นอื่น ๆ เช่น พระกฤษณะประลองกำลังต่าง ๆ นา ๆ 
วัดสระกำแพงใหญ่ตั้งอยู่ที่ หมู่ที่ 1 บ้านสระกำแพงใหญ่ ต.สระกำแพงใหญ่ อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ 
ก่อสร้างประมาณกลางพุทธศตวรรษที่ 16 ถึงพุทธศตวรรษที่ 16 ตอนปลายเป็นศาสนสถานในศาสนาพราหมณ์ ลัทธิไศวนิกาย และจากการพบเทพนพเคราะห์ชิ้นหนึ่งสันนิษฐานว่าใช้งานสะเดาะห์ ใช้วางอดกบัวแต่ละดอก และก็พบพระพุทธรูปนาคปรกองค์หนึ่งเป็นศิลปแบบนายน จึงอาจสันนิษบานได้ว่าเมื่อพ้นสมัยศาสนาพราหมณ์ไปแล้วคือ สมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ที่เข้ามาปกครองแถบนี้ก็เปลี่ยนศาสนาจากศาสนาพราหมณ์เป็นศาสนาพุทธมหายาน 



พระพุทธบาทภูฝ้าย
ตั้งอยู่ที่ หมู่ที่ 1 บ้านภูฝ้าย ต.ภูฝ้าย อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ พระพุทธบาทภูฝ้าย ตั้งอยู่บนเขาภูฝ้ายโดยการสร้างจำลองขึ้นของพระในวัดบนภูเขาภูฝ้ายขนาดกว้าง 1 เมตร ยาว 2 เมตร ในทุก ๆ ปี จะมีราษฎรจากตำบลต่าง ๆ ไปทำบุญ และกราบไหว้เป็นประจำทุกปี ปัจจุบันบนเขาภูฝ้ายได้จดทะเบียนจากกรมศิลปากร พื้นที่ 1,415 ไร่เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่อยู่บนภูเขาสูง มีสำนักสงฆ์ 1 แห่ง พระภิกษุ 2 รูป สระน้ำที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ และรอยพระพุทธบาทจำลอง ตลอดจนสัตว์ป่า เช่นลิง






พระธาตุเรืองรอง
ตั้งอยู่ที่ หมู่ที่ 3 บ้านสร้างเรือง ต.หญ้าปล้อง อ.เมืองศรีสะเกษ จ.ศรีสะเกษ 
เป็นพระธาตุที่สร้างแบบศิลปะพื้นบ้าน สูง 49 เมตร แบ่งออกเป็น 6 ชั้น ชั้นที่ 1 ใช้สำหรับประกอบพิธีทางศาสนา ชั้นที่ 2 - 3 ทำเป็นพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านชนสีเผ่า ของศรีสะเกษ คือ เขมร ส่วย ลาว เยอ ชั้นที่ 4 ประดิษฐานพระพุทธรูปสำคัญ ชั้นที่ 5 ใช้สำหรับการทำสมาธิ ชั้นที่ 6 เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ และเป็นที่ชม
ทัศนียภาพของพื้นที่



วัดถ้ำสระพงษ์
วัดถ้ำสระพงษ์ตั้งอยู่ภายในโครงการทับทิมสยาม 06 บ้านนาจะเรีย หมู่ที่ 13 อยู่ทางทิศใต้ของตำบลตั้งอยู่บนเทือกเขาพนมรัก มีทัศนียภาพที่สวยงาม ภายในวัดมีน้ำตก และถ้ำ






พุทธสถานศีรษะอโศก
ตั้งอยู่หมู่ที่ 15 บ้านศีรษะอโศก ตำบลกระแซง อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ใช้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว และศึกษาดูงาน 







วัดบูรพามหาพุทธาราม 
เป็นวัดเก่าแก่ เป็นที่นับถือของคนในตำบล ภายในบริเวณวัดจะมีต้นไม้ใหญ่ ร่มรื่น และมีพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ คู่บ้านคู่เมืองอายุหลายร้อยปี ตั้งอยู่ที่ ม. 4 บ้านพรานต.ห้วยเหนือ อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ

ขนมต้มมัด

ข้าวต้มมัด


ความเป็นมาของข้าวต้มมัด
       ข้าวต้มมัดหรือข้าวต้มผัดเป็นขนมชนิดหนึ่งที่ทำด้วยข้าวเหนียวผัดกับกะทิ แล้วนำไปห่อด้วยใบตองหรือใบมะพร้าวอ่อน ใส่ไส้กล้วย นำไปนึ่งให้สุก ทางภาคใต้ใช้ข้าวเหนียวกับน้ำกะทิ ห่อด้วยใบพ้อ เรียกห่อต้ม ถ้าห่อด้วยใบมะพร้าว และมัดด้วยเชือกเรียกห่อมัด ขนมแบบเดียวกับข้าวต้มยังพบในประเทศอื่นอีก เช่นในฟิลิปปินส์เรียก อีบอส หรือซูมัน ที่แบ่งย่อยได้หลายชนิดเช่นเดียวกับข้าวต้มมัดของไทย 
         ข้าวต้มมัดอีกชนิดหนึ่งเรียกข้าวต้มลูกโยนเป็นขนมที่ใช้ในเทศกาลออกพรรษา ห่อด้วยใบพ้อหรือยอดมะพร้าวเป็นรูปรี ข้างในเป็นข้าวเหนียวผสมถั่วดำไม่มีไส้ ผูกเข้าด้วยกันเป็นพวงแล้วนำไปต้ม ส่วนข้าวต้มมัดไต้ เป็นข้าวต้มที่ห่อแล้วมัดให้มีลักษณะเหมือนไต้ที่ใช้จุดไฟ ไส้เป็นถั่วทองโขลกกับรากผักชี กระเทียม พริกไทย ใส่หมู มันหมู ปรุงรสด้วยเกลือ น้ำ น้ำตาลทราย ห่อด้วยใบตองเป็นแท่ง มัดเป็นเปลาะ 4-5 เปลาะ แล้วนำไปต้ม บางท้องที่ใช้เป็นขนมไหว้เจ้าในเทศกาลตรุษจีนและสารทจีนด้วย
            ภาคตะวันออกเฉียงเหนือเรียกข้าวต้มมัดว่าข้าวต้มกล้วย ใช้ข้าวเหนียวดิบมาห่อ ปรุงรสด้วยเกลือนิดหน่อย ใส่ถั่วลิสงต้มสุกเคล้าให้เข้ากันแล้วจึงห่อเป็นมัด ใส่ไส้กล้วย เอาไปต้มให้สุก ถ้าเป็นแบบผัด จะผัดข้าวเหนียวกับกะทิก่อนแล้วจึงห่อใส่ไส้กล้วย แล้วต้มให้สุก ถ้าต้องการหวานจะเอามาจิ้มน้ำตาล ส่วนทางภาคเหนือนิยมนำข้าวต้มมัดที่สุกแล้วมาหั่นเป็นชิ้นๆ คลุกกับมะพร้าวขูด โรยน้ำตาลทราย เรียก ข้าวต้มหัวหงอก
            ข้าวต้มมัดทางภาคใต้ไม่มีไส้ เป็นข้าวเหนียวผัดกับกะทิ ใส่ถั่วขาว ไม่นิยมใช้ถั่วดำ ออกรสเค็มเป็นหลัก ถ้าต้องการให้มีรสหวานจะเอาไปจิ้มน้ำตาล และมีขนมชนิดหนึ่งเรียกข้าวต้มญวน มีลักษณะคล้ายข้าวต้มมัดแต่ห่อใหญ่กว่า ทำให้สุกด้วยการต้ม เมื่อจะรับประทานจะหั่นเป็นชิ้นๆ คลุกกับมะพร้าวขูด เกลือและน้ำตาลทราย


ส่วนผสม
ข้าวเหนียวอย่างดี 1 กก. = 5 ถ้วยตวง
มะพร้าวขูดขาว 1 กก. = 10 ถ้วยตวง
เกลือ 2 ช้อนชา
ถั่วดำต้มเปื่อย 1/2 ถ้วยตวง
กล้วยน้ำว้าสุก 2 หวี ราว 18 ผล
น้ำตาลทราย 21/2 ถ้วยตวง
ใบตอง



                
วิธีทำ
1.เอากากข้าวเหนียวออกให้หมด และเลือกข้าวสารออกด้วย  นำไปแช่น้ำค้างคืน แล้วสรงขึ้นใส่กระชอนให้สะเด็ดน้ำ
2.คั้นมะพร้าว ใส่น้ำทีละนิด คั้นให้ได้ 3 ถ้วยตวง  แล้วตวงน้ำตาลทราย และเกลือใส่ คนให้ละลาย  กรองเอาขี้ผงออก เทลงในกระทะทองเหลือง หรือหม้อเคลือบก็ได้  ตั้งไฟอ่อน ผัดจนข้าวเหนียวแห้ง จึงยกลงทิ้งไว้ให้เย็น
3.ปอกกล้วยให้หมด แล้วผ่าซีก ใส่ชามไว้ ถ้ากล้วยน้ำว้างอมมาก ต้องลดน้ำตาลทรายออกบ้างสัก 2 ช้อนโต๊ะ
4.เอาใบตองมาฉีกให้กว้างประมาณ 9 นิ้ว  ใบตองชั้นในเล็กลงนิดหน่อย เอาผ้าชุบน้ำเช็ดให้สะอาด
5.จับใบตองให้ทแยงมุม ตักข้าวเหนียวใส่ประมาณ 3 ช้อนโต๊ะ  เอากล้วยใส่ 1 ชิ้น เอาทางด้านผ่าขึ้น  ตักข้าวเหนียวใส่อีกประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ เอาถั่วดำต้มเปื่อยใส่ประมาณ 5-6 เม็ด  แล้วเอาชายใบตองทั้ง 2 ด้านทบเข้าหากันพับขนาดกว้าง 1 1/2 นิ้ว จนกระทั่งปิดข้าวเหนียว  เอานิ้วชี้หักที่ด้านบนให้เป็นมุม แล้วพับใบตองเข้าหาตัว ทำทั้ง 2 ข้าง  (คนที่ไม่เคยทำจะหักมุมได้ไม่สวย แต่ค่อยๆ ทำจะ ค่อยๆ ดีขึ้น ควรพยายามห่อให้แน่น)
6.เมื่อทำครบ 2 ห่อ นำเอาตอกมามัดที่ส่วนหัวและท้ายให้แน่น โดยเอาตอกพันให้รอบห่อข้าวต้มผัด  เอานิ้วรัดตรงจุดทบกัน  หมุนหลายรอบ แล้วสอดเข้าในตอก พันเข้าหาตัว  ส่วนปลายก็ทำเช่นเดียวกัน แต่พันออกจากตัวให้ตอกทับกัน  ทำเช่นนี้จนหมด จะได้ 18 คู่  นำไปเรียงในลังถึง เอาด้านข้างหงายขึ้น นึ่งบนน้ำเดือดประมาณ 1 ชม. 30 นาที ก็จะสุก (ก่อนจะห่อควรแบ่งข้าวเหนียวออกเป็น 36 ส่วน เวลาห่อจะได้เท่ากัน)





สมุนไพรเพื่อรักษาสิว

สมุนไพรเพื่อรักษาสิว

      สิวเป็นปัญหาที่ทุกคนต้องเคยเจอ บางคนอาจมีเพียงเล็กน้อย แต่บางคนก็มีจนเต็มใบหน้า ทำให้ใบหน้าของเราดูไม่เรียบเนียน วันนี้เลยนำวิธีรักษาสิวแบบธรรมชาติมาบอกเพื่อนๆกัน เป็นวิธีที่ทุกคนก็สามารถทำได้ แต่ก่อนเรามารู้จักประเภทของสิวก่อนน่ะค่ะ
1.  สิวเสี้ยน ส่วนใหญ่ขึ้นบริเวณจมูกและใกล้บริเวณปีกจมูก  มีลักษณะเป็นจุดดำๆ หรือเห็นเป็นหนามแหลมสีขาว เป็นสิวที่เกิดจากการอุดตันของไขมันที่จับตัวเข้ากับเยื่อรูขุมขนที่หลุดลอก ออกและขนอ่อนที่ตกค้างในรูขุมขน เวลากดสิวไขมันก็จะหลุดออกมาเป็นสิว วิธีแก้ ในท้องตลาดมักมี แผ่นลอกสิวเสี้ยวก็ใช้ได้นะ แต่ไม่หายขาด อาจจะจะใช้สครับ ขัดหน้าได้สัปดาห์ละ 1 ครั้ง ก็มีส่วนช่วยได้
2.  สิวผด หรือสิวเทียม สิวประเภทนี้จะเป็นลักษณะผดเม็ดเล็กๆ ที่ขึ้นแถวๆ หน้าผากและแก้ม ลักษณะไม่เป็นสิวชัดเจน บางทีในตอนเช้าอาจจะยังไม่มีผื่นพอตกบ่ายเท่านั้นผดผื่นก็จะเริ่มขึ้นแล้ว สิวชนิดนี้มักเกิดจากความร้อน แสงแดด การเช็ดถูหน้าบ่อยๆ หรือการเช็ดหน้าแรงเกินไป  สิวแบบนี้ ผู้เขียน ขอใช้คำว่า สิวผีหลอก เพราะชอบหายกลางคืน  โผล่เม็ดตอนเช้า เฮ้อ!! อาจจะต้องใช้เวชสำอางมาทา แก้ผื่น แต่ ไม่อยากแนะนำค่ะ เพราะไม่ใช่การรักษาที่ถูกวิธี บางยี่ห้อมีสเตอรอยด์ผสมนะค่ะ  น้องๆก็พยายามเบาๆๆกับผิวหน้าหน่อยนะค่ะ
3.  สิวอุดตัน ซึ่งเป็นสิวหัวเปิดหรือสิวหัวดำ พอบีบออกมาเหมือนสิวน้ำมันรำข้าวอ่ะ  เป็นสิวที่มีรูเปิดออกบริเวณภายนอก  ทำให้บริเวณที่เป็นหัวสิวสัมผัสกับแสงแดดและฝุ่นละอองซึ่งสังเกตเห็นเป็นจุด ดำๆ อยู่บริเวณหัวสิว แต่มักไม่อักเสบ และสามารถหลุดออกได้เอง แนะนำว่าให้มันหลุดไปเองจะดีกว่า เพราะถ้าบีบ จะเป็นรอยแผลเป็น ชั้นผิวหนังบริเวณนั่นจะเกิดการอักเสบนะค่ะต้องมือเบาๆ  หรือ ให้คุณหมอจัดการนะค่ะคุณสาวๆๆๆ
4.  สิวอักเสบ เป็นสิวที่เกิดขึ้นมาการอักเสบของเซลล์ผิวหนังอันเนื่องมาจากเชื้อแบคทีเรีย พีเอคเน่  ทำให้เกิดการอักเสบ เห็นเป็นรอยนูนแดงได้อย่างชัดเจน ถ้าการอักเสบนี้อยู่บริเวณต้นๆ ของท่อไขมันก็จะเห็นเป็นก้อนนูนบวมขึ้นมา หากการอักเสบรุนแรงมาก และลึกลงไปถึงใต้ชั้นผิวหนังจนกลายเป็นถุงหนองฝังอยู่ภายในจะเรียกว่า สิวหัวช้างหรือสิวอักเสบนั่นเอง

ลักษณะของสิว
1. สิวอุดตัน  มี 2 ชนิด คือ
   1.1  สิวหัวเปิด (สิวหัวดำ)
   1.2 สิวหัวปิด (สิวหัวขาว)
2. สิวอักเสบ มีหลายชนิด เช่น  ตุ่มหนอง ตุ่มแดง ตุ่มบวม ก้อนเนื้อบวมโต ซึ่งการอักเสบอาจทำให้เจ็บและปวดได้



สมุนไพรรักษาสิว 

ว่านหางจระเข้
ว่านหางจระเข้มีสรรพคุณในการบำรุงผิว ป้องกันฝ้า ลบรอยจุดด่างดำ และรักษาสิว วิธีใช้คือ นำวุ้นจากใบสด มาทาบริเวณที่มีเป็นสิว เพียงแค่วันละ 2 ครั้ง เช้า - เย็น และปล่อยให้แห้งโดยไม่ต้องล้างออก เพียงเท่านี้ สิวก็จะค่อย ๆ หายไป สำหรับผู้ที่ผิวแพ้ง่าย อาจทดลองทาวุ้นบริเวณท้องแขนดูก่อนว่ามีอาการแพ้หรือไม่




หอมแดง
ในหอมแดงสดจะประกอบไปด้วยน้ำมันหอมระเหยและสารต่าง ๆ ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยยับยั้งเชื้อแบคทีเรียสาเหตุของสิว วิธีใช้คือ นำหัวหอมแดงสดนำมาฝานเป็นแว่นบาง ๆ หรือทุบเบา ๆ แตะน้ำที่ซึมออกมาจากหัวหอมนำมาทาบาง ๆ บริเวณที่เป็นสิวหรือรอยจุดด่างดำ รอยสิวก็จะค่อย ๆ จางหายไปในไม่ช้า


น้ำมะนาว
น้ำมะนาว ทำงานโดยการผลัดเอาเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกไป ช่วยสร้างความยืดหยุ่นให้แก่ผิว ทั้งยังช่วยชำระรูขุมขนและช่วยให้ผิวรู้สึกสดชื่น สดใสด้วย สามารถใช้ได้ทั้งทาและดื่ม


มะม่วงสุก
มะม่วงเป็นผลไม้ที่มีกรดอ่อน ๆ ช่วยในการผลัดเซลล์ผิว เราสามารถนำมะม่วงสุกมาใช้ในการแก้ปัญหาสิวได้ วิธีใช้คือ นำมะม่วงสุก 1 ผล มายีจนข้นเหลว แล้วเติมน้ำมะนาวครึ่งช้อนโต๊ะ ดินสอพอง 1 ใน 4 ช้อนโต๊ะ และน้ำผึ้งสัก 1 ช้อนชา จากนั้นก็ยีทั้งหมดให้เข้ากันอีกครั้งและนำมาปั่น แล้วมาทาทั่วใบหน้า ทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที ก่อนล้างออกด้วยน้ำสะอาด 




ใบบัวบก
สารสกัดในใบบัวบกมีฤทธิ์ในการต้านการอักเสบและอาการแพ้ ช่วยในการสมานผิว ป้องกันรอยแผลเป็น และลดการสะสมของแบคทีเรียได้อย่างดี วิธีใช้คือ นำใบบัวบกผงมาผสมน้ำสะอาด พอกหน้าให้แห้งแล้วล้างออก หรือใช้แต้มหัวสิว จะทำให้สิวแห้งและหายเร็วขึ้น


 เปลือกมังคุดเปลือกมังคุดนั้นเป็นที่รู้กันว่ามีสรรพคุณทางยาหลายประการ ทั้งยังมีฤทธิ์ในการลดการอักเสบของสิว และยับยั้งแบคทีเรีย วิธีใช้คือ นำเปลือกมังคุดแห้งมาต้มน้ำอาบ หรือใช้น้ำต้มเปลือกมังคุดมาทาบริเวณที่มีอาการ หรือนำเปลือกมังคุดมาบดเป็นผงและผสมน้ำเปล่า พอกหน้าจนแห้งแล้วล้างออก หรือใช้แต้มหัวสิวหนอง สิวจะยุบภายใน 1 - 2 วัน
นี่เป็นเพียงตัวอย่างที่นำมาบอกเพื่อน ยังมีสมุนไพรอีกมากมายที่สามารถรักษาสิวได้ดี เพื่อนๆลองนำไปทำดูน่ะค่ะ


วันเสาร์ที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2557

ลดน้ำหนักด้วยวิธีธรรมชาติ

การลดน้ำหนักด้วยวิธีธรรมชาติ


      สาวๆสมัยนี้มีปัญหาเรื่องการลดน้ำหนักเป็นจำนวน สาวๆหลายคนหันไปพึ่งยาลดน้ำหนักจนทำให้ มีผลข้างเคียงตามมามากมาย ยาลดน้ำหนักอาจช่วยได้จริงแต่เมื่อเลิกทานแล้วก็กลับมาอ้วนเหมือนเดิมแถมยังโยโย่อีก วันนี้เลยมีวิธีที่จะลดน้ำหนักโดยไม่ต้องพึ่งยาลดน้ำหนักมาฝากกัน ลองอ่านดูเผื่อสาวๆจะลดน้ำหนักกันได้แบบง่ายแถมไม่มีผลข้างเคียง



    ดื่มน้ำ 1-2 แก้ว ให้เป็นกิจวัตรประจำวัน เพราะการดื่มน้ำตอนเช้าจะทำให้ร่างกายสดชื่นเร็วขึ้น และช่วยกระตุ้นการขับถ่าย ป้องกันการท้องผู

    มื้อเช้า ซึ่งเป็นมื้อที่สำคัญที่สุดของวัน ควรเป็นอาหารประเภทโปรตีน จะช่วยให้ร่างกายเผาผลาญได้ดี เมนูง่าย ๆ ในตอนเช้า เช่น เกาเหลา และข้าวซ้อมมือ ก๋วยเตี๋ยวน้ำน่องไก่ ข้าวต้มเครื่อง รวมทั้งผลไม้สด ซึ่งอาหารเช้านอกจากจะช่วยให้สมองมีประสิทธิภาพดีขึ้นแล้ว ยังช่วยลดคอเลสเตอรอลในเลือดได้อีกด้วย

    มื้อเที่ยง สามารถรับประทานอาหารได้ตามปกติ โดยเพิ่มผักประมาณครึ่งจานของมื้ออาหาร หรือรับประทานผลไม้หลังมื้ออาหาร จะช่วยลดปริมาณการกินอาหารที่มีแป้งและไขมันสูง อีกทั้งผักและผลไม้อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุต่าง ๆ ที่จำเป็นต่อร่างกาย มีกากใยอาหารและมีสารแอนตี้ออกซิแดนท์สูง ช่วยลดการสะสมของสารก่อมะเร็งหลาย ๆ ชนิด และกากใยยังช่วยในการขับถ่าย ลดคอเลสเตอรอล และช่วยป้องกันโรคเรื้อรังต่าง ๆ รวมทั้งเสริมสร้างผิวพรรณให้สดใสเปล่งปลั่ง


      ห้ามอดอาหารเย็น ให้เลือกรับประทานอาหารพวกผักและผลไม้แทน โดยเน้นผักและผลไม้ที่มีกากใยอาหารสูง เช่น ผักกระเฉด ผักบุ้ง คะน้า ถั่วงอก ตำลึง มะม่วงดิบ มะละกอ ฝรั่ง และเสริมด้วยธัญพืช เช่น พืชตระกูลถั่ว ข้าวกล้อง ข้าวซ้อมมือ ซึ่งจะช่วยในการควบคุมน้ำหนัก ลดคอเลสเตอรอล และลดความดันโลหิต ซึ่งจะลดความเสี่ยงโรคหัวใจและป้องกันโรคมะเร็ง

        ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้กล้ามเนื้อแข็งแรง ปอดแข็งแรง ทำงานได้ดีขึ้น ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจ เส้นเลือดในสมองตีบ ช่วยควบคุมน้ำหนัก และสำหรับคนที่มีปัญหานอนไม่หลับการออกกำลังกายยังช่วยให้หลับสบายดีขึ้น

        อย่านอนดึก การนอนดึก หรืออดนอนจะทำให้อยากรับประทานอาหารรอบดึกได้ การนอนหลับอย่างมีคุณภาพจะช่วยให้มีสุขภาพดีทั้งร่างกายและจิตใจ

      วิธีนี้อาจดูจะไม่ได้ผล แต่ถ้าเราทำทุกวันเป็นประจำ ร่างกายของเราก็จะค่อยๆลดการกินอาหารของเรา ทำให้เป้นคนกินอาหารที่เหมาะสมกับร่างกาย และจะช่วยในเรื่องน้ำหนักของเราด้วย สาวๆที่มีปัญหาในเรื่องนี้ก็ลองนำไปปรับใช้กันดู ทำบ่อยๆเราก็จะชินไปเอง


คิตตี้

Hello Kitty

      ด้วยความน่ารักของตัวการ์ตูนคิตตี้ ทำให้ใครหลายๆคนหลงใหลในตัวการ์ตูนตัวนี้  รวมทั้งดิฉันด้วย ด้วยความน่ารัก สดใสของมันทำให้คิตตี้เป็นตัวการ์ตูนลำดับต้นๆที่ได้รับความนิยม วันนี้เราเลยเอาข้อมูลเกี่ยวกับติตตี้มาฝากกันน่ะค่ะ

ชื่อ HELLO KITTY

วันเกิด : 1 พฤศจิกายน (1974)  

สถานที่เกิด : ลอนดอน อังกฤษ






ที่อยู่ Kitty : อาศัยที่บ้านสีขาวหลังคาแดง ห่างจากตัวเมืองลอนดอน 20 กิโลเมตร ในเมืองที่ไม่มีใครทราบชื่อซึ่งมีประชากรอาศัยอยู่ประมาณ 20,000 ชีวิต คุณสามารถเดินทางไปยังเมืองแห่งนี้ได้ ภายใน 20 นาทีโดยรถยนต์ หรือ 30 นาทีโดยรถเมล์

สัดส่วน : น้ำหนักเท่ากับแอ๊ปเปิ้ล 3 ผล สูงเท่ากับแอ๊ปเปิ้ล 5 ผล

กรุ๊ปเลือด : A (Negative)
 ราศี : พิจิก
สีที่ชอบ : แดง



อาหารโปรด : พายแอ๊ปเปิ้ลฝีมือคุณแม่ ฮ็อทเค้ก พุดดิ้งและของหวานทั้งหลาย เช่น ลูกกวาด เป็นต้น

วิชาโปรด : ดนตรีและภาษาอังกฤษ

สิ่งที่ชอบ : ของชิ้นเล็กๆน่ารักๆเหมือนตัวเธอนั่นเอง เธอสะสมดาวดวงเล็กๆ ปลาทองตัวน้อย เหรียญเงินและริบบิ้นมากมาย นอกจากนี้เธอยังชอบไปเที่ยวเล่นตามสาธารณะหรือในป่ากับเพื่อนๆอยู่เสมอ หากมีเวลาว่าง Kitty มักจะตรงดิ่งไปยังร้านลูกกวาดเสมอ เธอชอบลูกกวาดมากๆเลยล่ะ ! 

จุดเด่น : สิ่งที่ทำให้ทุกๆคนจดจำ Kitty ได้เสมอก็คือริบบิ้นสีแดงที่หูซ้าย ของเธอและปุยหางอันฟูฟ่องของเธอนั่นเอง

ชายในสเป็ค Kitty : ชอบผู้ชายที่ใจดีและเป็นมิตร รักครั้งแรกของ Kitty ก็คือ Dear Daniel และเมื่อ Dear Daniel ได้เดินทางไปอยู่กับครอบครัวของเขาที่แอฟริกา Kitty ก็ได้หันมาคบกับ Tippy หมีหนุ่มเพื่อนร่วมชั้น

ความใฝ่ฝัน : นักเปียโน

บุคลิก Kitty : เป็นแมวน้อยที่ร่าเริง อบอุ่นและใจดี เธอมีฝีมือในการอบคุ้กกี้ที่แสนอร่อยและชอบทาน พายแอ๊ปเปิ้ลฝีมือของคุณแม่ เพื่อนสนิทของ Kitty ก็คือน้องสาวฝาแฝดของเธอที่ชื่อว่า “Mimmy” นั่นเอง และตั้งแต่คุณพ่อของ Kitty ได้เข้าไปทำงานในนิวยอร์ค เธอจึงมีเท็ดดี้แบร์เป็นเพื่อนอีกมากมาย งานอดิเรกของ Kitty ก็คือการเดินทางท่องเที่ยว อ่านหนังสือ เล่นดนตร โดยเฉพาะอย่างยิ่งเปียโน เธอชอบชิมคุ้กกี้ฝีมือการอบของ Mimmy น้องสาว และ Kitty ยังชอบเล่นกีฬาด้วยเช่นกัน เธอโปรดปราน การตีเทนนิส แต่สิ่งที่เธอชอบมากที่สุดก็คือการพบปะ ผู้คนและทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่ๆ ก็เป็นเหมือนที่ Kitty บอกกับทุกคนนั่นแหล่ะว่า “ไม่มีวันที่เราจะรู้สึกว่าเรามีเพื่อนมากเกินไป”ด้วยเหตุนี้ นี่เอง Kitty จึงกลายเป็นสาวน้อย ที่ป็อปปูลาร์ที่สุดในโรงเรียน โรงเรียน โรงเรียนตั้งอยู่ระหว่างเส้นทางที่มุ่งสู่ลอนดอนห่างจากบ้านของ Kitty 4 กิโลเมตร โรงเรียนของ Kitty นั้นนับได้ว่าเป็นโรงเรียนที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งซึ่งปกคลุมไป ด้วยต้นไม้และแวดล้อมสัตว์ป่าน้อยใหญ่ Kitty และ Mimmy เดินทางไปโรงเรียนด้วยรถเมล์ด้วยกันทุกเช้าซึ่งใช้เวลาในการเดินทางเพียง สามป้ายรถเมล์เท่านั้นคุณครูจะคอยทักทายกับพวกเธอทั้งสองอยู่ที่หน้าโรงเรียน ทุกวัน และเป็นที่แน่นอนว่า Kitty และ Mimmy คือสองสาวที่ป็อปปูลาร์ที่สุด ในโรงเรียน


และด้วยควมน่ารักของคิตตี้นี้เอง ทำให้มีสินค้าเกี่ยวกับคิตตี้มากมาย ให้สาวกคิตตี้ได้สะสมกัน

 









นี่เป็นแค่ส่วนหนึ่งของคิตตี้เท่านั้น เรื่องราวเกี่ยวกับคิตตี้ยังมีอีกมากมาย เราผู้มีความชื่นชอบในคิตตี้คงได้ติมตามกันใหม่น่ะค่ะ

อำเภอขุขันธ์

     อำเภอขุขันธ์


ประวัติเมืองขุขันธ์
        อำเภอขุขันธ์ เป็นอำเภอหนึ่งที่ขึ้นกับจังหวัดศรีสะเกษ เป็นอำเภอเก่าแก่ที่มีประวัติความเป็นมาอันยาวนานควบคู่มากับการตั้ง “เมืองขุขันธ์” ในอดีตมีอาณาเขตกว้างขวางครอบคลุมพื้นที่ที่เป็นอำเภอต่างๆ หลายอำเภอของจังหวัดศรีสะเกษในปัจจุบัน โดยก่อนปี พ.ศ 2481 ใช้นามว่า “อำเภอห้วยเหนือ” ขึ้นต่อการปกครองของเมืองขุขันธ์ ประชาชนส่วนมากนับถือศาสนาพุทธและมีอาชีพทำนากันเป็นส่วนมาก
        ในสมัยกรุงศรีอยุธยา บริเวณที่เป็นเขตจังหวัดศรีสะเกษและสุรินทร์ ในปัจจุบันนี้ เดิมเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของกลุ่มชาวกวยและเขมร ซึ่งเรียกโดยรวมว่า เขมรป่าดง มีชุมชนที่สำคัญ คือ บ้านปราสาทสี่เหลี่ยมโคกลำดวน ซึ่งต่อมาเป็นเมืองขุขันธ์ ปีพุทธศักราช ๒๓๐๒ รัชสมัยสมเด็จพระเจ้าเอกทัศน์ แห่งกรุงศรีอยุธยา พญาช้างเผือกได้แตกโรงไปอยู่รวมกับโขลงช้างป่าในเขตภูเขาพนมดงเร็ก จึงโปรดเกล้าฯให้ทหารคู้พระทัย (ทองด้วงและบุญมา) นำไพร่พลออกติดตาม โดยได้รับการช่วยเหลือจาก ตากะจะ หัวหน้ากลุ่มชนบ้านปราสาทสี่เหลี่ยมโคกลำดวน และเชียงขัน ร่วมกับหัวหน้ากลุ่มชาวเขมรป่าดงที่ชำนาญการจับช้าง คือ เชียงปุ่ม แห่งบ้านเมืองที เชียงสี แห่งบ้านกุดหวาย เชียงฆะ แห่งบ้านอัจจะปะนึง และเชียงไชย แห่งบ้านจาระพัด ออกติดตามจนพบ สามารถจับพญาช้างเผือกได้ และตามคณะนำส่งถึงกรุงศรีอยุธยา พระเจ้าอยู่หัวจึงโปรดเล้าฯ พระราชทานบรรดาศักดิ์ให้ ตากะจะ เป็นหลวงแก้วสุวรรณ ตำแหน่งนายกองหัวหน้าหมู่บ้าน และเชียงขัน เป็นหลวงปราบ ผู้ช่วย
  เมืองขุขันธ์เดิมมีชาวจีนอยู่เป็นจำนวนมาก แต่เมื่อมีการตัดทางรถไฟผ่านเมืองศรีสะเกษ แต่ไม่ผ่านเมืองขุขันธ์ ชาวจีนเป็นจำนวนมากจึงอพยพมาตั้งถิ่นฐานใหม่ที่เมืองศรีสะเกษ ทำให้เมืองขุขันธ์ซบเซาลง แต่เมืองศรีสะเกษกลับขยายตัวอย่างรวดเร็ว จนในที่สุดก็เปลี่ยนชื่อจังหวัดขุขันธ์เป็นจังหวัดศรีสะเกษ และยุบเมืองขุขันธ์เป็นอำเภอขุขันธ์ขึ้นกับศรีสะเกษ
ตาลโตนดมียอดถึง 9 ยอด และมีอายุอยู่คู่กับเจ้าเมืองถึง 9 คน เป็นต้นตาลที่มีความแปลกเพราะลำต้นเดียว แต่แตกแขนงลำต้นออกเป็น 9 แขนง 9 ยอด เคยมีชีวิตและตั้งต้นตระหง่านมาตั้งแต่กำเนิดเมืองขุขันธ์ ณ หมู่บ้านตาดม หมู่ที่ 8 ตำบลห้วยใต้ อำเภอขุขันธ์ จังหวัดศรีสะเกษได้ล้มตายลงเมื่อปี พ.ศ. 2509 ปัจจุบันยังคงเหลือแต่เพียงร่องรอยภาพถ่ายแห่งอดีตมาถึงปัจจุบัน
วัดทั้ง 4 แห่งเมืองขุขันธ์ ประกอบด้วย วัดเจ๊กโพธิพฤกษ์ วัดเขียนบูรพาราม วัดบกจันทร์นคร และวัดไทยเทพนิมิต วัดทั้ง 4 วัด เป็นวัดที่เก่าแก่มีความเป็นมาอันยาวนาน ตั้งอยู่ทั้ง 4 ทิศของเมือง คู่กับชุมชนกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆในอดีตจนถึงปัจจุบัน โดยมีวัดกลางอัมรินทราวาสเป็นศูนย์กลาง

ประวัติพระยาไกรภักดี ตากะจะ ผู้สร้างเมืองขุขันธ์


พระยาไกรภักดีศรีนครลำดวน ทีชื่อเดิมว่า ตากะจะ เป็นหัวหน้าชาวเขมรป่าดงบ้านปราสาทสี่เหลี่ยมโคกลำดวน
  • ปี พุทธศักราช ๒๓๐๒ ในรัชสมัยสมเด็จพระเจ้าเอกทัศน์แห่งกรุงศรีอยุธยา พญาช้างเผือกแตกโรงหนีเข้าป่า ไปอยู่รวมกับโขลงช้างป่าในเทือกเขาพนมดงเร็ก ตากะจะและเชียงขันธ์ พร้อมหัวหน้าชาวเขมรป่าดง รับอาสาตามจับพญาช้างเผือกได้และตามคณะนำส่งถึงกรุงศรีอยุธยา ด้วยความชอบในครั้งนี้จึงโปรดเกล้าฯ พระราชทานบรรดาศักดิ์ให้ ตากะจะ เป็นหลวงแก้วสุวรรณ ตำแหน่งกัวหน้านายกองปกครองหมู่บ้าน
  • ปี พุทธศักราช ๒๓๐๖ หลวงแก้วสุวรรณ นำเครื่องบรรณาการถวายพระเจ้าอยู่หัว ณ กรุงศรีอยุธยา ความชอบครั้งนี้ ได้โปรดเกล้าฯ ให้ยกฐานะบ้านปราสาทสี่เหลี่ยมดคกลำดวน ขึ้นเป็น เมืองขุขันธ์ โปรดเกล้าฯ เลื่อนบรรดาศักดิ์ ให้หลวงแก้วสุววรณ เป็น พระไกรภักดีศรีนครลำดวน เจ้าเมืองขุขันธ์
  • ปี พุทธศักราช ๒๓๑๙-๒๓๒๑ สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบรี โปรดเกล้าฯ ให้พระยาจักรี (ทองด้วง) ไปทำศึกสงครามกับเวียงจันทร์หลายครั้ง พระไกรภักดีศรีนครลำดวน (ตากะจะ) ได้เกณฑ์กำลังไปช่วยรบอย่างเข้มแข็ง จนได้รับชัยชนะทุกครั้ง จึงโปรดเกล้าฯ เลื่อนบรรดาศักดิ์เป็นพระยาไกรภักดีศรีนครลำดวน นับได้ว่าเป็นบรรพบุรุษผู้สร้างเมืองขุขันธ์ เป็นต้นตระกูลของเมืองขุขันธ์และได้ถึงแก่อนิจกรรมในปี พุทธศักราช ๒๓๒๑

ที่ตั้งและอาณาเขต
ในสมัยกรุงศรีอยุธยา บริเวณที่เป็นเขตจังหวัดศรีสะเกษและสุรินทร์ ในปัจจุบันนี้ เดิมเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของกลุ่มชาวกวยและเขมร ซึ่งเรียกโดยรวมว่า เขมรป่าดง มีชุมชนที่สำคัญ คือ บ้านปราสาทสี่เหลี่ยมโคกลำดวน ซึ่งต่อมาเป็นเมืองขุขันธ์ ปีพุทธศักราช ๒๓๐๒ รัชสมัยสมเด็จพระเจ้าเอกทัศน์ แห่งกรุงศรีอยุธยา พญาช้างเผือกได้แตกโรงไปอยู่รวมกับโขลงช้างป่าในเขตภูเขาพนมดงเร็ก จึงโปรดเกล้าฯให้ทหารคู้พระทัย (ทองด้วงและบุญมา) นำไพร่พลออกติดตาม โดยได้รับการช่วยเหลือจาก ตากะจะ หัวหน้ากลุ่มชนบ้านปราสาทสี่เหลี่ยมโคกลำดวน และเชียงขัน ร่วมกับหัวหน้ากลุ่มชาวเขมรป่าดงที่ชำนาญการจับช้าง คือ เชียงปุ่ม แห่งบ้านเมืองที เชียงสี แห่งบ้านกุดหวาย เชียงฆะ แห่งบ้านอัจจะปะนึง และเชียงไชย แห่งบ้านจาระพัด ออกติดตามจนพบ สามารถจับพญาช้างเผือกได้ และตามคณะนำส่งถึงกรุงศรีอยุธยา พระเจ้าอยู่หัวจึงโปรดเล้าฯ พระราชทานบรรดาศักดิ์ให้ ตากะจะ เป็นหลวงแก้วสุวรรณ ตำแหน่งนายกองหัวหน้าหมู่บ้าน และเชียงขัน เป็นหลวงปราบ ผู้ช่วย

วันอังคารที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2557

วิธีการเพิ่มน้ำหนัก

วิธีการเพิ่มน้ำหนัก

        หลายคนคงมีปัญหาในเรื่องของน้ำหนักที่มาก และหาวิธีเพื่อลดน้ำหนักให้ได้หุ่นที่สมส่วน แต่คนที่ผอมก็เช่นเดียวกันที่ต้องจะมีหุ่นที่สมส่วน เลยต้องหาวิธีการเพิ่มน้ำหนัก แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับคนที่ผอมอย่างฉัน ปัญหาการเพิ่มน้ำหนักก็ยากพอๆกับกับการลดน้ำหนัก ในวันนี้ดิฉันเลยหาวิธีการเพ่มน้ำหนักมาฝาก เพื่อให้สาวๆหรือหนุ่มที่ต้องการมีหุ่นที่สมส่วน มาลองทำกัน
                                                                                                                                                                  

    เน้นกินอาหารที่เพิ่มพลังงาน เช่น แป้ง น้ำตาล ผัก ผลไม้ ให้มากกว่าเดิม แต่ควรให้หมุนเวียนชนิดกันไปและการเพิ่มน้ำหนักที่ดีควรเพิ่มไม่เกินสัปดาห์ละ 0.5-1 กิโลกรัมอย่างสม่ำเสมอ 



    เพิ่มมื้อย่อยรวมเป็น 4-6 มื้อต่อวัน โดยเพิ่มมื้ออาหารว่างเข้าไป เช่น ซาลาเปาไส้ถั่วดำ 1 ลูก น้ำส้มคั้น 1 แก้ว หรือถั่วต้ม เป็นต้น 

    กินอาหารให้ได้สัดส่วน ทั้งคาร์โบไฮเดรท โปรตีน ไขมันแทนที่จะเพิ่มแต่ของหวาน ๆ มัน ๆ อย่างที่นิยมกันเพราะถ้าเพิ่มน้ำหนักวิธีนั้นจะได้เป็นไขมันสะสมตามหน้าขา หน้าท้อง ต้นขาได้

      เพิ่มวิตามินและเกลือแร่ โดยเฉพาะวิตามินบีรวม จะช่วยเพิ่มความอยากอาหาร และช่วยเผาผลาญอาหารในร่างกายให้เป็นพลังงาน 

      เลือกอาหารชนิดที่ให้พลังงานสูง แต่จานไม่ใหญ่นัก เช่น ระหว่างสลัดผักกับไข่ดาวกับสเต็กปลา สเต็กปลาอาจจะให้พลังงานมากกว่าขณะที่กินในปริมาณที่น้อยกว่า

      ออกกำลังกายให้ถึงพีค สัปดาห์ละ 3 ครั้งร่วมกับเพิ่มอาหารโปรตีน เช่น โปรตีนจากถั่ว ปลา และอาหารทะเลจะช่วยเพิ่มกล้ามเนื้อและได้หัวใจที่แข็งแรง และเพิ่มความอยากอาหารคนผอมที่คิดว่าออกกำลังกายจะยิ่งทำให้ผอมลง

      ก่อนเวลาอาหารให้เดินหรือทำกิจกรรมเบาๆเพื่อช่วยเรียกความอยากอาหารแต่ถ้าทำกิจกรรมหนักและนานเกินไป ร่างกายจะเพลียและเหนื่อยเกินไปจนกินอะไรไม่ลง หรือจะจิบแกงจืดหรือซุปใสอุ่น ๆ เพื่อเรียกน้ำย่อยก่อนอาหารก็ไม่เลว 

      สังเกตว่าสิ่งแวดล้อมแบบไหนที่ช่วยให้เจริญอาหาร แล้วพยายามสร้างบรรยากาศเช่นนั้นในการรับประทานอาหาร เช่น โต๊ะอาหารที่จัดบรรยากาศให้น่ารัก หรือถ้วยชามลายกระจุ๋มกระจิ๋ม 

      นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เพราะขณะหลับร่างกายจะใช้พลังงานน้อยลง งดรับประทานอาหารที่ไร้ประโยชน์และเป็นโทษต่อร่างกาย เช่น ของหมักดอง แอลกอฮอล์ รวมไปถึงอาหารที่มีแคลอรี่สูงที่เป็นไขมันชนิดไม่ดีกับสุขภาพ หรืออะไรก็ตามที่เราคิดว่ามันไม่ดีกับสุขภาพ 
      วิธีการเพิ่มน้ำหนักข้างต้น เป็นข้อแนะนำบางส่วนเท่านั้น ยังมีวิธีเพิ่มน้ำหนักอีกมากมาย แต่วิธีข้างต้นสามารถนำไปปรับใช้ได้หากทำเป็นประจำก็จะช่วยได้ดีจริงๆ เพื่อนๆก็ลองนำไปใช้ดูน่ะค่ะ